มันแย่มากเลยนะคะสำหรับคำพวกนี้หากว่าเราได้เผลอเข้าไปรู้จักกับมัน แน่นอนว่าถ้าคุณคนหนึ่งเป็นพวกที่แบบเป็นหนี้เยอะๆ แล้วไม่อยากจ่าย หรือเป็นหนี้จำนวนมากมายเกินกว่าที่จะรับไว้แล้วไม่มีปัญญาไปใช้หนี้ หรือว่าหากตัวเองไม่ใช่คนที่แบบไปก่อหนี้มา แต่คนอื่นๆ ที่เราเคยรู้จักเป็นคนสร้างหนี้ให้เราเป็นแพะรับบาปอะไรแบบนี้ มันคงไม่ดีมากถึงมากที่สุเลยนะคะ ทุกอย่างที่ดิฉันพูดมันเข้าข่ายกับหัวข้อที่เราจะมาทำความรู้จักกันในวันนี้ นั้นก็คือการติดแบล็คลิสหรือการติดบัญชีดำนั่นเองค่ะ
นอกจากความหมายเหล่านั้นที่ได้เกริ่นไป มันจะมีคำอีกคำหนึ่งที่เราจะมักพบเห็นได้ตามทั่วไปนะคะ มันก็คือคำว่า ติดเครดิตบูโร มีความหมายแบบเดียวกันเลยค่ะ คือการมีหนี้เสียจากการกู้เงิน หรือยืมเงินกู้ มีเงินเข้ามาแต่ไม่ยอมไปจ่ายเขา หากเกินระยะเวลาที่ทางสถาบันการเงินและธนาคารกำหนด คุณก็จะเท่ากับว่าได้ติดเครดิตบูโร หรือติดหนี้เสียไปเลยโดยปริยาย หากลองย้อนไปดูตัวเองว่าเราสามารถจะพบเจอกับการติด Blacklist ได้จากที่ไหนบ้าง คงต้องบอกว่าอาจจะพบเจอได้โดยทั่วไปจากพวกคอเซนเตอร์ของเจ้าหน้าสินเชื่อส่วนบุคคลค่ะ เขาจะโทรมาทวงเงินเรา ว่าเราติดเครดิตบูโรและกำลังจะติดแบล็คลิสอะไรแบบนี้ค่ะ
โดยบทสรุปในการที่เรามีหนี้เสีย หลายคนอาจจะคิดว่ามันคงไม่เกิดขึ้นกับตัวเองหรอก แต่ความเป็นจริงแล้วมันอาจเกิดกับคุณได้อย่างแน่นอนอยู่แล้ว ดั่งคำที่กล่าวไว้ว่าอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้บนโลกใบนี้ บางทีคุณอาจจะประสบอุบัติเหตุจนต้องเอาเงินก้อนสุดท้ายที่ว่าจะเก็บไว้ผ่อนกับธนาคารเอามาใช้เป็นเงินด่วนก่อน หรือบางทีคุณอาจจะต้องให้น้องชายน้องสาวนำเงินไปจ่ายค่าเทอมใช่ไหมคะ คุณก็อาจต้องเจียดเงินจำเป็นๆ ออกไป และกลายเป็นของหนี้เสียในอนาคตไงคะ เห็นภาพกันไหมเอ่ย